วันอังคารที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2558

Subject and verb agreement

 หลักการใช้กริยาให้สอดคล้องกับประธาน
1. ประธานเป็นเอกพจน์ กริยาเป็นเอกพจน์ ประธานเป็นพหูพจน์ กริยาเป็นพหูพจน์
EX. Jane lives in China. เจนอาศัยอยู่ในประเทศจีน
       The  Jones live in France. ครอบครัวโจนส์อาศัยอยู่ในประเทศฝรั่งเศส
2. กรณีมีประธาน 2 ตัว เชื่อมด้วย and โดยปกติถือเป็นพหูพจน์ กริยาจึงอยูในรูปพหูพจน์
EX. Jean and David are moving back to Australia. เจนและเดวิด กำลังจะย้ายกลับไปประเทศออสเตรเลีย
3. กรณีมีประธาน 2 ตัว เชื่อมด้วย and  แด่นำมาใช้โดยคิดเป็นหน่วยเดียวกันใช้กริยาเป็นเอกพจน์
EX. Bread and butter has been my breakfast for years. ขนมปังและเนยเป็นอาหารมื้อเช้าของฉันมาหลายปีแล้ว
       Rice and curry is my  daughter’s favorite food. ข้าวแกงกะหรี่เป็นอาหารโปรดของลูกสาวฉัน
  **แต่ถ้าผู้พูดคิดว่าแยกกัน ก็จะมีความหมายเป็นพหูพจน์ เช่น
Rice and curry are what  we have  for lunch today. เรามีข้าวและแกงกะหรี่เป็นอาหารกลางวันวันนี้
4. ประธานที่มีคำนามมากกว่า 1  และเชื่อมด้วย and หากเป็นคนหรือสิ่งเดียวกัน จะมี article ที่ประธานตัวหน้าแห่งเดียวหากเป็นคนละคนกันจะมี article ที่คำนามทั้งสอง เช่น
The manager and owner of this restaurant is my friend. ผู้จัดการและเจ้าของร้านอาหารนี้เป็นเพื่อนของฉัน (คนเดียวกัน)
The manager and the owner of this restaurant are my friends. ผู้จัดการและเจ้าของร้านอาหารนี้เป็นเพื่อนของฉัน
                                                                                                  ( คนละคน  )

 5.ประธานที่มีวลีหรือคำขยายต่อไปนี้ต่อท้าย จะใช้กริยาเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์นั้นต้องยึดการใช้กริยาตามประธานตัวหน้าเป็นหลัก
accompanied by ( พร้อมด้วย )in company with  ( พร้อมด้วย )
along with ( พร้อมด้วย )including ( รวมทั้ง )
as well as ( เช่นเดียวกับ )like ( เช่นเดียวกับ )
besides (นอกจาก )not ( ไม่ใช่ )
but ( ยกเว้น )plus ( รวมทั้ง )
except ( ยกเว้น )together with ( พร้อมด้วย )
excluding ( ไม่นับ )with ( พร้อมกับ )
in addition to ( นอกจาก )
เช่น
John together with his colleagues has agreed to work late tonight to get the job finished.            จอห์นพร้อมทั้งเพื่อนร่วมงานของเขาตกลงที่จะอยู่ทำงานดึกเพื่อให้งานเสร็จ                 ( ใช้กริยาตาม John )
6.ประโยคหรือวลีที่ขยายประธาน ไม่มีผลต่อการใช้กริยาของประธาน
EX.John, with all his players, was on the field. จอห์นพร้อมด้วยบรรดาผู้เล่นของเขาอยู่บนสนาม
       ( with all his players ขยายประธานคือ John )
7.คำต่อไปนี้ถือเป็นเอกพจน์ เมื่อมาเป็นประธานของประโยค ต้องใช้กริยาเอกพจน์เสมอ   ได้แก่
anybodyeverybodysomeone
anyoneeveryonesomebody
anythingeverythingsomething
anywhereeverywheresomewhere
each + นามเอกพจน์either + นามเอกพจน์neither +นามเอกพจน์
each of + นามพหูพจน์either of + นามพหูพจน์neither of +นามพหูพจน์
nobodyevery + นามเอกพจน์nothing
เช่น
Is there anybody here who could speak Japanese? มีใครที่นี่พูดภาษาญี่ปุ่นได้บ้าง
Each of the lessons takes an hour. บทเรียนแต่ละบทใช้เวลา 1 ชั่วโมง
 8.ประธานซึ่งเชื่อมด้วยคำต่อไปนี้ กริยาถือตามประธานตัวหลัง
orneither… nor
either….ornot only……but also
เช่น   Neither the Priminister nor his representatives are to attend the meeting.                        
       ทั้งนายกรัฐมนตรีและผู้แทนไม่ต้องเข้าร่วมการประชุม
       Either the teachers or the principal is to blame for the accident.                                                  
       ไม่พวกครูก็ครูใหญ่ต้องรับผิดชอบในอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
  *หมายเหตุ ในกรณีประธาน 2 ตัว  นิยมเอาประธานที่เป็นพหูพจน์ไว้ข้างหลังมากกว่า

 9,  คำ  Indefinite Pronouns ต่อไปนี้ถ้าใช้แทนคำนามนับได้ ถือเป็นพหูพจน์เสมอ
      all, both,  (a) few, many, several, some
      เช่น
All were ready to leave the party by midnight.  ทั้งหมดพร้อมที่จะออกจากงานเลี้ยงตอนเที่ยงคืน
Few were in the audience to see the horrible play. มีคนดูละครห่วยๆนี้อยู่ไม่กี่คน
10.การใช้วลีบอกปริมาณ
1.) วลีบอกปริมาณต่อไปนี้ถ้าตามด้วยนามเอกพจน์ต้องใช้ กริยาต้องใช้เอกพจน์  ถ้าตามด้วยนามพหูพจน์กริยาต้องใช้พหูพจน์
a lot ofplenty ofmost ofsome of
lots ofall ofnone of…percent of
เช่น
I think a lot of English wine is too sweet.
ฉันคิดว่า ไวน์ของอังกฤษจำนวนมากที่หวานเกินไป (wine เป็น นามนับไม่ได้มีความหมายเป็นเอกพจน์)
A lot of people are in the room,  มีคนจำนวนมากในห้อง
( people มีรูปเอกพจน์คือไม่มี s แต่มีความหมายพหูพจน์จึงใช้ are)
2. วลีบอกปริมาณต่อไปนี้ใช้กับนามนับได้ที่เป็นพหูพจน์ และกริยาก็ต้องเป็นพหูพจน์ตามด้วยคือ
a number ofmany
a large number ofa good many
a great number ofa great many
เช่น
A number of students are playing football.  นักเรียนจำนวนมากกำลังเล่นฟุตบอล
A large number of tourists get lost because of that sign.  นักท่องเทียวจำนวนมากหลงทางเพราะป้ายนั้น
11.วลีบอกปริมาณต่อไปนี้ เมื่อใช้กับนามนับไม่ได้  กริยาต้องใช้รูปเอกพจน์ตลอดไป
mucha large number of
a great deal ofa large amount of
a good deal ofa large quantity of
เช่น
Although a great deal of progress has been made in the development of  spoken communication with computers, there  are still a large number of problems to be solved.
*หมายเหตุ  แต่  the number  of  ตามด้วยนามพหูพจน์ และใช้กริยาเอกพจน์ เช่น
The number of students in the class is limited to twenty.  จำนวนของนักเรียนในห้องจำกัดที่ยี่สิบคน

12.ประโยคที่มี who, which , that เป็น Relative Pronoun  กริยาของ Relative Pronoun จะใช้รูปของเอกพจน์หรือพหูพจน์
ให้ถือเอาตามคำที่มันแทนซึ่งอยู่ข้างหน้า who, which , that   เช่น He is one of my friends who are millionaires. 
เขาเป็นเพื่อนคนหนึ่งของฉัน ( ในหลายๆคน ) ที่เป็นเศรษฐี (ใช้ are เพราะ who ขยาย my friends)

13.ประธานที่ขึ้นต้นด้วย Infinitive Phrase ( วลีที่นำหน้าด้วย to ) หรือ gerund ( ing ) ถือว่าเป็นเอกพจน์ กริยาต้องเป็นรูปเอกพจน์ตาม เช่น
To see is to believe. ต้องได้เห็นจึงจะเชื่อได้ ( สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น )
14.จำนวนเงินหรือมาตราต่างๆ  เช่น   ถือเป็นเอกพจน์ เช่น
Twenty thousand bahts is too high for this camera. ราคาสองหมื่นบาทสูงเกินไปสำหรับกล้องตัวนี้
15.เศษส่วนของคำนามพหูพจน์เป็นพหูพจน์  เศษส่วนของคำนามเอกพจน์เป็นเอกพจน์
Two-thirds of the boys are absent.   สองในสามของเด็กชายขาดเรียน
16.ชื่อหนังสือหรือบทความเป็นเอกพจน์ เช่น
Gulliver’s travels was written by  Swift. หนังสือเรื่องการเดินทางของกัลลิเวอร์เขียนโดยสวิฟต์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น